Fujifilm X-A3 กล้องที่ไม่ได้ออกมาแทน X-A2 แต่ถูกวางตำแหน่งไว้สูงขึ้นจากราคาที่ตั้งไว้ 23,990 บาท มันได้เปลี่ยนเซ็นเซอร์ให้มีความละเอียดสูงขึ้น

เป็น 24 ล้านพิกเซลในฟอร์แมต APS-C โครงสร้างภายนอกออกแบบใกล้เคียงเดิมที่เพิ่มเติม คือเมืองไทยมีผลต่อการออกแบบครั้งนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากยอดการจัดจำหน่ายในประเทศสูงจนทั่วโลกตกใจถึงปรากฎการณ์ฟูจิฟิล์มฟีเวอร์กลายเป็น Thailand Model ดังนั้นแนวความคิดการออกแบบฟังก์ชั่น เมนู จึงได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้ใช้แบบโดนใจวัยว้าวุ่นมากๆ…ที่สำคัญบอดี้มีสีพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะที่ BIG CAMERA ที่เดียวในประเทศไทย นั่นคือสี Caramel Brown Limited Edition

Fujifilm X-A3

Fujifilm X-A3 ออกแบบได้เรียบหรูเก๋กูดเป็นแฟชั่นในสไตล์ทูโทนให้เลือก 4 สี คือสีดำ แนวคลาสสิก, สีชมพู สาวหวานฟรุ้งฟริ้ง, สีน้ำตาล สุดขรึม และสีพิเศษ Caramel Brown เรียบหรูดูแพงให้สาวกได้เลือกสรรมีไว้ติดกระเป๋า ด้วยความพิเศษตอบสนองการเซลฟี่ให้ล้ำทันสมัยเพิ่มยิ่งขึ้นกับการนำ Portrait Enhancer Mode  มาช่วยเสริมบุคลิกให้กับเจ้าของและเพื่อนพ้อง (ปรับได้3ระดับ) ผ่านการควบคุมแบบทัชสกรีนเป็นรุ่นแรกทั้งการกดเองผ่านชัตเตอร์ หรือแตะหน่วงเวลาแบบ Self Timer ให้แชะต่อเนื่อง 3 ช๊อทอัตโนมัติที่ทางฟูจิฟิล์มดึงกลับมาใส่ไว้อีกครั้งหลังจากเคยมีในกล้องกลุ่มคอมแพคตระกูลS แต่ตอนนั้นเหมือนเกิดเร็วเกิดไปคนใช้ไม่อินกัน ด้านหน้าได้ปรับการเลือกระบบโฟกัสภาพมาไว้ด้านหน้าเหมือนรุ่นใหญ่ คือมี S, C และ M เลือกใช้ตามโอกาสได้รวดเร็วทันใจ ขอทบทวนการใช้นิดนึงดีกว่ากรณีตัวแบบอยู่นิ่งๆ สามารถเลือกแบบ Single(S) ถ้าตัวแบบขยับหรือเคลื่อนที่แนะนำให้เลือกแบบ Continuous(C)  และหากอยากหมุนปรับโฟกัสเองก็สามารถเลือกแบบ Manual(M) ได้ จุดโฟกัสเลือกเปลี่ยนขนาดได้ด้วยการกดปุ่ม AF แล้วหมุน Dial ด้านหลัง ซึ่งแต่ละโอกาสไม่มีข้อกำหนดตายตัวแต่ถ้าอยากโฟกัสละเอียดก็เลือกขนาดเล็กเอาไว้ก่อนโอกาสได้งานดีก็มีสูง พกไปเที่ยวต่างประเทศสวยหรูดูแพง

Nokia 3310 Previous post กระแสแรงกับ Nokia 3310
โตชิบาตู้เย็น Next post การตลาดตู้เย็นไทย